‘ออสเตรเลีย’ถือว่าเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการศึกษาต่อของนักเรียนต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยคุณภาพของระบบการศึกษาที่ได้รับการยอมรับ สิทธิ์การทำงานสำหรับผู้จบการศึกษาใหม่ ชีวิตความเป็นอยู่ที่สะดวกสบาย ผู้คนที่เป็นมิตร ความหลากหลายทางวัฒนธรรม นวัตกรรมที่ทันสมัย สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ออสเตรเลีย ยังเป็นประเทศยอดนิยมอันดับ 3 ในการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนต่างชาติจากทั่วโลก
เรียนกับมหาวิทยาลัย
ระดับTop 100 ของโลก
มีโอกาสทำงานใน
บริษัทชั้นนำของโลก
คุณภาพชีวิตที่ดี
และปลอดภัย
เป็นประเทศที่มีการ
เดินทางที่สะดวกสบาย
สามารถทำงานได้ด้วย
พร้อมกับเรียน
ความหลากหลาย
ทางวัฒนธรรม
เป็นประเทศที่มี
ความปลอดภัยสูง
มีโอกาสในการ
รับทุนการศึกษา
มีคนไทยศึกษาและ
อาศัยจำนวนมาก
‘ออสเตรเลีย’ ถือว่าเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการศึกษาต่อของนักเรียนต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยคุณภาพของระบบการศึกษาที่ได้รับการยอมรับ สิทธิ์การทำงานสำหรับผู้จบการศึกษาใหม่ ชีวิตความเป็นอยู่ที่สะดวกสบาย ผู้คนที่เป็นมิตร ความหลากหลายทางวัฒนธรรม นวัตกรรมที่ทันสมัย สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ออสเตรเลีย ยังเป็นประเทศยอดนิยมอันดับ 3 ในการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนต่างชาติจากทั่วโลก
ออสเตรเลียนอกจากจะเป็นแหล่งการเรียนที่ยอดเยี่ยมระดับโลกแล้วนักเรียนต่างชาติที่มาเรียนหนังสือที่นี่ก็ยังได้รับประสบการณ์ชีวิตที่ดีจากการเรียนรู้ไลฟ์สไตล์แบบออสซี่ และทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย
“ออสเตรเลีย” ถือเป็นอีกหนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่ดีที่สุดในโลก ในปี 2020 Times Higher Education World University Rankings จัดลำดับให้มหาวิทยาลัย 6 แห่งของออสเตรเลียให้อยู่ใน 100 อันดับแรกของโลก
ประเทศออสเตรเลียมีสถาบันที่เป็นทางเลือกให้กับนักศึกษาต่างชาติมากกว่า 1,200 สถาบัน และมีหลักสูตรให้เลือกกว่า 22,000 หลักสูตร นักเรียนสามารถเลือกเรียนได้ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา รวมถึงระดับฝึกอบรมวิชาชีพ (Vocational Education and Training, VET) จนถึงการศึกษาระดับอุดมศึกษา (University) และรวมไปถึงหลักสูตรภาษาอังกฤษ หรือหลักสูตรระยะสั้นสำหรับคนที่มีจุดประสงค์จะมาท่องเที่ยวหรือทำงานไปด้วยก็สามารถทำได้
นอกจากนี้ออสเตรเลียยังมีกฎหมายของประเทศและหน่วยงานกำกับที่ทำหน้าที่ส่งเสริมการศึกษาให้มีคุณภาพและคุ้มครองนักศึกษาต่างชาติที่ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรใดหรือระยะนานเท่าไหร่ก็ตาม โดยหน่วยงานหลักจะประกอบด้วย 1)หน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบและคุณภาพระดับประเทศสำหรับการศึกษาชั้นสูง – Tertiary Education Quality and Standards Agency (TEQSA) ก่อตั้งโดยรัฐบาลออสเตรเลียเพื่อควบคุมคุณภาพการศึกษาระดับวิชาชีพและอุดมศึกษา 2) สำนักงานที่ส่งเสริมคุณภาพทักษะออสเตรเลีย – Australian Skills Quality Authority (ASQA) และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอาทิเช่น พระราชบัญญัติการบริการด้านการศึกษาสำหรับนักศึกษาต่างชาติ (ESOS) ปี 2000 และประมวลกฎหมายแห่งชาติว่าด้วยมาตรฐานการปฏิบัติวิชาชีพสำหรับหน่วยงานทะเบียนและผู้ให้บริการการศึกษาและการฝึกอบรมแก่นักศึกษาต่างชาติ ปี 2007 (ประมวลกฎหมายแห่งชาติ)
สำหรับระบบการศึกษาออสเตรเลียในระดับปริญญาตรีนั้นจะใช้เวลาเรียนประมาณ 3 ปี ในการเรียนจบ ระบบเทอมจะมีทั้ง 2 แบบทั้งแบบ 2 เทอมและ 3 เทอมการศึกษาต่อปี ส่วนปริญญาโทจะใช้ระยะเวลา 1.5 ถึง 2 ปี และหลักสูตร TAFE ซึ่งจะขึ้นอยู่กับหลักสูตรที่เลือกจะตั้งแต่ 1-2 ปี
สำหรับระบบการศึกษาออสเตรเลียในระดับปริญญาตรีนั้นจะใช้เวลาเรียนประมาณ 3 ในการเรียนจบ ระบบเทอมจะมีทั้ง 2 แบบทั้งแบบ 2 เทอมและ 3 เทอมการศึกษาต่อปี ส่วนปริญญาโทจะใช้ระยะเวลา 1.5 ถึง 2 ปี และหลักสูตร TAFE ซึ่งจะขึ้นอยู่กับหลักสูตรที่เลือกจะปีตั้งแต่ 1-2 ปี
ออสเตรเลียให้ทุนการศึกษาจากรัฐบาลให้แก่นักเรียนต่างชาติเป็นประจำทุกปี โดยมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในออสเตรเลียจะมีการจัดสรรทุนแก่นักเรียนต่างชาติที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด บางมหาวิทยาลัยนั้นจะพิจารณาจากผลการเรียน ผลวัดระดับภาษา และเหตุผลในการได้รับทุน ส่วนบางมหาวิทยาลัยนั้นจะได้รับการพิจารณาทุนโดยอัตโนมัติสำหรับนักเรียนต่างชาติ
Sydney เป็นหนึ่งในเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลีย และยังเป็นเมืองหลวงของรัฐนิวเซาท์เวลส์ เมืองซิดนีย์ถือได้ว่าเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินและเศรษฐกิจของประเทศออสเตรเลีย มีสิ่งก่อสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ที่ใครๆเห็นก็รู้เลยทันที่ว่านี่คือ โรงอุปรากรซิดนีย์ (Sydney Opera House) ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซิดนีย์ เนื่องจากซิดนีย์เป็นเมืองยอดนิยมของนักเรียนต่างชาติ ทำให้มีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหลากหลายที่ เช่น The University of New South Wales, Macquarie University และ University of Technology Sydney และสถาบันสอนภาษาเช่น ILSC Language School (ILSC), International House (IH), และ English Language Company (ELC)
Melbourne เป็นเมืองหลวงของรัฐวิคตอเรีย เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศออสเตรเลีย และเป็นเมืองที่มีประชากรอยู่อาศัยพอๆกับเมืองซิดนีย์ เป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจ การเงิน การคมนาคมขนส่ง และศิลปะวัฒนธรรม เป็นเมืองที่รวมผู้ที่สนใจในการเรียนด้านศิลปะ มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอย่างเช่น RMIT, Monash และ The University of Melbourne และสถาบันสอนภาษาเช่น Discover English, Impact English College (Impact), และ ILSC Language School (ILSC)
Brisbaneเมืองบริสเบนเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศออสเตรเลียโดยรองมาจากเมืองซิดนีย์ และเมลเบิร์น อีกทั้งเมืองบริสเบนยังเป็นเมืองหลวงของรัฐควีนส์แลนด์ สภาพภูมิอากาศในบริสเบนเป็นลักษณะภูมิอากาศแบบกึ่งร้อนชื้น เป็นเมืองที่เหมาะสำหรับนักเรียนต่างชาติเนื่องจากค่าครองชีพไม่สูงมาก มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอย่างเช่น The University of Queensland, Queensland University of Technology และ Griffith University และสถาบันสอนภาษาเช่น Browns English Language School (Browns), International House ALS, และ Impact English College (Impact)
Perth เป็นเมืองหลวงของรัฐ Western Australia ตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งของแม่น้ำ Swan มีอากาศ 4 ฤดู มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่าง Riverside Kings Park และ Botanic Garden ที่ตั้งอยู่บนเชิงเขา Mount Eliza ที่สามารถมองวิวของเมืองได้ เพิร์ทเป็นเมืองที่เหมาะกับการมาเรียนต่อ ทั้งภาษาและระดับมหาวิทยาลัย อย่างสถาบันการศึกษาชื่อดังอย่างเช่น The University of Western Australia และสถาบันสอนภาษาเช่น Navitas
ดูแล เรียนต่อไต้หวัน เรียนต่อจีน เรียนภาษาจีน เรียนต่อปริญญา ทุนเรียนต่อ ทุนเรียนภาษาจีน แก้ไขเอกสารขอวีซ่า เตรียมเอกสารต่างๆ แปลเอกสารต่างๆ เตรียมตัวก่อนเดินทาง หาที่พักและติดต่อ หาโรงเรียนภาษาจีน เรียนระยะสั้น/เรียนระยะยาว / ไปเอง/ ไปกับบริษัท/ รับจัดทริป ซัมเมอร์แคมป์ Summer Camp / Study Tour
Dot Education
ผู้เชี่งชาญแนะแนว
เรียนต่อต่างประเทศ